แมวเป็นหวัด อาการ และการรักษาแมวเป็นหวัด
ในขณะที่คนเรามักเป็นหวัดจากสิ่งที่ไม่รุนแรงอย่างการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล คุณอาจสงสัยว่าแมวเป็นหวัดได้ไหม? คำตอบคือ ได้! หวัดแมว หรือที่เรียกว่าโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (URI) มีอาการหลายๆ อย่างที่คล้ายกับหวัดของคน หากแมวของคุณจามหรือมีน้ำมูกไหล อาจมีแนวโน้มว่าเขาติดหวัดแล้ว หวัดแมวมักเกิดจากแบคทีเรียหรือไวรัสที่สามารถแพร่กระจายได้ง่ายระหว่างแมวด้วยกัน น้องแมวที่ชอบออกไปเที่ยวข้างนอกหรืออาศัยในสถานที่ดูแลแมวมักมีโอกาสเป็นหวัดสูงเนื่องจากต้องสัมผัสกับแมวตัวอื่นๆ แม้ว่าหวัดแมวจะไม่สามารถแพร่เชื้อไปยังคนได้ แต่การรู้วิธีการดูแลรักษาแมวเป็นหวัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พวกเขาหายหวัดไวขึ้น ในคู่มือนี้เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับอาการของหวัดแมวและวิธีการรักษาหวัดแมวที่บ้าน

อาการของแมวเป็นหวัดมีอะไรบ้าง?
หากแมวของคุณเป็นโรคไข้หวัดแมวหรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (URI) คุณอาจสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าเจ้าเหมียวของคุณเป็นไข้หวัด โดยเรียงตามระดับความรุนแรง:
- จาม
- น้ำมูกไหล
- ตาแฉะ
- น้ำมูกไหล
- มีไข้อ่อนๆ
- เบื่ออาหาร
- ไอ
- มีน้ำมูกหรือน้ำตาไหล
- เซื่องซึม
- มีไข้
- แผลในปาก
- แผลหลุมที่กระจกตา
สำหรับในแมวหลายๆ ตัว อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในประมาณ 7 - 10 วัน แต่บางตัวอาจมีปัญหาแทรกซ้อน เช่น:
- มีน้ำมูกหรือขี้ตาสีเหลือง-เขียว
- การคัดจมูกอย่างรุนแรงที่ส่งผลต่อการได้กลิ่นหรือรับรส
- เบื่ออาหาร
- ปอดบวม
- ไอ
- หายใจลำบาก
การรู้จักอาการของหวัดแมวตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณรู้วิธีรักษาแมวเป็นหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในบางกรณีที่รุนแรง แมวของคุณอาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ควรทำอย่างไรเมื่อแมวเป็นหวัด?
ถ้าเจ้าเหมียวเป็นหวัด นี่คือบางขั้นตอนที่สามารถช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น:
- ใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำมูกที่ไหลออกจากจมูก
- ใช้ผ้าและน้ำเกลือล้างตาที่แฉะ
- เปิดเครื่องทำความชื้นเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ
ถ้าเจ้าเหมียวมีอาการแน่นหน้าอกจนหายใจลำบาก:
- ให้แมวอยู่ในกรงสำหรับสัตว์เลี้ยง
- วางชามน้ำร้อนไว้ด้านหน้ากรง
- คลุมกรงทั้งสองข้างด้วยผ้าห่มเป็นเวลาประมาณ 15 นาที
เมื่อคุณเริ่มให้แมวของคุณกินยาแก้หวัดแมวแล้ว ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะหายหวัดได้อย่างรวดเร็ว:
- เช็คให้แน่ใจว่าแมวของคุณกินอาหารและดื่มน้ำอย่างต่อเนื่อง
- อุ่นอาหารเพื่อให้น่ากินและง่ายต่อการกลืนมากขึ้น
- ให้ความอบอุ่นกับเจ้าเหมียวของคุณโดยการวางผ้าห่มเพิ่มในที่นอนหรือพื้นที่โปรดของพวกเขา
หมายเหตุสำคัญ: อย่าให้ยาแก้หวัดของคนกับแมวเด็ดขาด ควรปรึกษาสัตวแพทย์เสมอเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม หากแมวของคุณเป็นไข้หวัด การรู้วิธีรักษาหวัดแมวที่บ้านสามารถช่วยให้การฟื้นฟูของพวกเขาดีขึ้นอย่างมาก

จะรู้ได้อย่างไรว่าควรพาแมวของคุณไปพบสัตวแพทย์เมื่อเป็นหวัดแมว?
โดยส่วนใหญ่แล้วหวัดแมวมักไม่เป็นอันตรายและจะหายไปภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การเฝ้าสังเกตสุขภาพของน้องแมวของคุณอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญ หากอาการไม่ดีขึ้นภายในวันที่สี่ ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์ เนื่องจากหวัดเรื้อรังอาจนำไปสู่โรคปอดบวมได้ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับแมวสูงวัย ลูกแมว หรือแมวที่มีภาวะสุขภาพอื่นๆ ที่ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้ แมวที่กำลังให้นมลูกหรือแมวที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็ควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์เช่นกัน หากแมวของคุณเริ่มมีอาการไอ หายใจลำบาก หรือหยุดกินหรือดื่มน้ำ คุณควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด การรู้ว่าเมื่อไรควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวของคุณได้รับการรักษาที่เหมาะสมเมื่อเป็นหวัดแมว
สัตวแพทย์วินิจฉัยหวัดแมวได้อย่างไร?
หากแมวของคุณแสดงอาการของหวัด สัตวแพทย์จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุ การให้ข้อมูลทางการแพทย์ที่ละเอียด รวมถึงการอาการเริ่มต้นและลักษณะของอาการของแมวเป็นสิ่งสำคัญ สัตวแพทย์อาจแนะนำการตรวจวินิจฉัยทั่วไปเพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ของภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม การตรวจเหล่านี้อาจรวมถึงการตรวจเลือดและการถ่ายภาพเอกซ์เรย์ช่องอก
สำหรับแมวที่มีอาการทางเดินหายใจส่วนบนเรื้อรังหรือรุนแรงอาจแนะนำให้ทำการตรวจทางเดินหายใจส่วนบน PCR การตรวจนี้เป็นการเก็บสารคัดหลั่งจากตาและจมูกด้วยไม้พันสำลีและส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุของโรคทางเดินหายใจ สำหรับแมวที่มีอาการเล็กน้อย การตรวจ PCR มักจะไม่จำเป็น
ตอนนี้คุณรู้สัญญาณของหวัดแมวและวิธีการรักษาแล้ว การระบุและจัดการกับปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะเป็นเรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม อย่าลังเลที่จะปรึกษากับสัตวแพทย์เมื่อคุณไม่แน่ใจ สุดท้ายแล้ว ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สามารถช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเจ้าเหมียวของคุณมีสุขภาพดีและมีความสุข