Whiskas imagery
ค้นหา

ใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหาด้านล่างเพื่อค้นหาบทความและผลิตภัณฑ์

5 ปัจจัยต้องดูแลเพื่อสุขภาพที่ยืนยาวของน้องเหมียว

คุณสามารถช่วยให้น้องเหมียวมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุขได้ ด้วยการหมั่นตรวจเช็คปัจจัยด้านสุขภาพทั้ง 5 ให้แข็งแรงอยู่เสมอ

การตรวจสุขภาพที่สำคัญเพื่อความแข็งแรงและอายุยืนยาว

การเลี้ยงแมวเป็นการทำงานเต็มเวลา ทำทุกวัน ไม่มีวันหยุด เราต้องดูแลรับผิดชอบความเป็นอยู่และสุขภาพโดยทั่วไปของเจ้าตัวเล็กให้ดี ถึงแม้ว่าแมวส่วนใหญ่จะมีสุขภาพที่แข็งแรงและทนทานต่อโรค แต่พวกเค้าก็มักจะเผชิญกับโรคเฉพาะบางประการ ด้วยเหตุนี้การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เรารู้ดีว่าปัญหาสุขภาพของเจ้าเหมียวมักจะสร้างความกังวลให้กับผู้เลี้ยง ในบทความนี้ เราจึงรวบรวมสารพัดเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็นการชั่งน้ำหนัก การสังเกตภาษากาย ฟัน ดวงตา สุขภาพผิวหนังและเส้นขน

น้ำหนักตัวของแมว

น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยของแมวคือเท่าใด?

น้ำหนักที่เหมาะสมของแมวขึ้นอยู่กับอายุและสายพันธุ์ เช่น แมวพันธุ์ใหญ่อย่างเมนคูน อาจมีน้ำหนักเฉลี่ยมากถึง 8 กิโลกรัม! อย่างไรก็ตาม แมวบ้านโตเต็มวัยควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ระหว่าง 4 – 5 กิโลกรัม หากมีน้ำหนักน้อยกว่านี้ แสดงว่าแมวผอมเกินไปและควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำหนักตัวที่เหมาะสมสำหรับแมวคือเท่าใด?

หากอยากรู้ว่าแมวของคุณมีน้ำหนักเหมาะสมหรือไม่ เป็นแมวผอมหรืออ้วนเกินไปหรือเปล่า คุณสามารถตรวจเช็กได้ง่าย ๆ ด้วยการมองและสัมผัส หากคุณมองไม่เห็นและสัมผัสไม่พบกระดูกซี่โครง แสดงว่าแมวของคุณอาจมีน้ำหนักเกิน ในทางกลับกัน หากมองเห็นและสัมผัสถึงกระดูกซี่โครงได้อย่างชัดเจน แสดงว่าแมวผอมเกินไป อาจต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

น้ำหนักเฉลี่ยของแมวแตกต่างกันตามสายพันธุ์ใช่หรือไม่?

ใช่ สายพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาน้ำหนักเฉลี่ยของแมวโตสุขภาพดี รวมถึงพิจารณาว่าแมวผอมหรืออ้วนเกินไปหรือไม่ด้วย โดยแมวพันธุ์เล็กจะมีน้ำหนักเฉลี่ยน้อยกว่าแมวพันธุ์ใหญ่ เช่น เมนคูน ซาวานนาห์ และแมวนอร์วีเจียน ฟอเรสต์

อายุของแมวส่งผลต่อน้ำหนักอย่างไร?

อายุก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพิจารณาว่าแมวผอมหรืออ้วนเกินไปหรือไม่ เนื่องจากระดับไขมันในร่างกายของแมวขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และอัตราการเผาผลาญ น้ำหนักที่เหมาะสมจึงเปลี่ยนแปลงไปตามอายุด้วย

เคล็ดลับการดูแลแมวให้มีน้ำหนักที่เหมาะสม

มาติดตามเคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูแลและควบคุมน้ำหนักของแมวให้เหมาะสมไปพร้อม ๆ กัน

  1. เปลี่ยนมาให้อาหารเป็นเวลา

    หลีกเลี่ยงการให้อาหารอย่างอิสระ เพราะอาจทำให้แมวกินอาหารมากเกินไปและมีปัญหาน้ำหนักตัวเกินได้

  2. กระตุ้นให้แมวเคลื่อนไหวร่างกาย

    แมวชอบเล่น ชอบสำรวจ และมีความกระตือรือร้นโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้แมวอ้วนและมีอาการเซื่องซึมได้ ควรกระตุ้นให้พวกเค้าเคลื่อนไหวและเล่นเป็นประจำเพื่อเผาผลาญแคลอรีส่วนเกินออกไป

  3. จำกัดปริมาณขนม

    เนื่องจากขนมแมวมีปริมาณแคลอรีสูง หากได้รับมากเกินไปอาจทำให้แมวมีน้ำหนักเพิ่มและเกิดโรคอ้วนได้

สุขภาพผิวหนังและเส้นขนของแมว

ลักษณะขนของแมว

ลักษณะขนของแมวขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้

  1. ขนยาว

    แมวนอร์วีเจียน ฟอเรสต์ แรกดอลล์ เมนคูน และแมวเปอร์เซีย เป็นสายพันธุ์ที่มีขนยาวสวยงาม

  2. ขนสั้น

    แมวพันธุ์นี้มักจะมีขนที่สั้นและหนา แมวพันธุ์ขนสั้น เช่น แมวบริติชช็อตแฮร์ เบงกอล อะบิสซิเนียน วิเชียรมาศ และแมวสก็อตติชโฟลด์

  3. ขนหยิก

    เป็นสายพันธุ์ที่หายาก เช่น เดวอน เร็กซ์, อเมริกัน ไวร์แฮร์, ลาเปิร์ม, สกูคัม และเยอรมัน เร็กซ์

โภชนาการมีความสำคัญต่อสุขภาพผิวหนังและขนของแมวหรือไม่?

สารอาหาร เช่น ไบโอติน วิตามินซี วิตามินอี และไรโบฟลาวิน มีบทบาทสำคัญต่อการรักษาความยืดหยุ่นของผิวหนังและเส้นขน รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังในแมวด้วย

การกรูมมิ่งเป็นประจำมีความสำคัญหรือไม่?

แมวมักจะเลียขนทำความสะอาดตัวเองอยู่เสมอ แต่นั่นอาจยังไม่เพียงพอ ผู้เลี้ยงควรหมั่นกรูมมิ่งเจ้าเหมียวเป็นประจำด้วย เพื่อช่วยกำจัดขนที่หลุดร่วง ขนที่พันเป็นก้อน เห็บหมัด และปรสิตชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ยังช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและก่อให้เกิดโรคผิวหนังในแมวอีกด้วย

แมวควรอาบน้ำบ่อยแค่ไหน?

ควรอาบน้ำให้แมวอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยแชมพูสูตรเฉพาะสำหรับแมว เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก น้ำมันบนผิวหนัง และจุลินทรีย์อื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังจากเชื้อราแมว อีกทั้งยังลดปัญหาขนพันกันเป็นก้อน การติดเชื้อเห็บหมัดและปรสิต ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุของโรคผิวหนังด้วย

ประเภทของโรคผิวหนังในแมว

หากพบว่าแมวของคุณมีขนร่วง มีผื่นแดงหรือตุ่มขึ้นตามตัว มีอาการคันอย่างต่อเนื่อง แมวของคุณอาจมีปัญหาผิวหนังและควรได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม โดยโรคผิวหนังของแมวที่พบบ่อย ได้แก่

  1. การติดเชื้อแบคทีเรีย ภาวะแผลติดเชื้อ แผลตกสะเก็ด โรคผิวหนังจากเชื้อราแมว และโรคผื่นผิวหนังอักเสบ เป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยในแมว
  2. สำหรับการติดเชื้อ ผื่น ตุ่มแดง ผิวแห้งเป็นขุย โรคผิวหนังของแมวที่เกิดจากปรสิต เชื้อราแมวหรือกลากแมว การรักษาทำได้ด้วยการให้ยา การใช้แชมพูสูตรพิเศษ และบางกรณีอาจต้องตัดขนร่วมกับการรักษา
  3. แมวที่มีภาวะภูมิแพ้น้ำลายหมัดและแพ้อาหารอาจแสดงอาการของโรคผิวหนังในแมว
  4. สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสรดอกไม้ สิ่งสกปรก เศษผงและฝุ่น อาจก่อให้เกิดปัญหาขนร่วงมากผิดปกติ สิวใต้คาง และโรคเชื้อราสปอโรทริโคซิส ทั้งนี้โรคผิวหนังจากเชื้อราแมวบางชนิดอาจแสดงอาการคล้ายคลึงกัน หากพบว่าแมวมีสัญญาณเตือนของปัญหาผิวหนัง ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างเหมาะสมในทันที

ตาแมว

ดวงตาสื่ออารมณ์

นอกจากเสียงร้องเมี้ยว ๆ แล้ว เจ้าเหมียวยังใช้ภาษากายในการสื่อสารกับเราด้วย เช่น การใช้ดวงตา

การเรียนรู้ภาษากายและท่าทางของแมวจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและอารมณ์ความรู้สึกของพวกเค้าได้ดียิ่งขึ้น

  1. ความตื่นตัว

    แมวอาศัยดวงตาในการแสดงอารมณ์และความรู้สึก เช่น ความตื่นเต้น ความกลัว ความโกรธ และความสุข การขยายรูม่านตาอย่างกะทันหันอาจบ่งบอกถึงการกระตุ้นอารมณ์ที่รุนแรง โดยรูม่านตาจะขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นสีดำ

  2. ความเชื่อใจ

    ท่าทางที่สงบผ่อนคลายและดวงตาที่เปิดกว้างเป็นการแสดงออกถึงความไว้วางใจแบบฉบับแมวเหมียว

    นอกจากนี้แมวมักจะเอาหัวชนหรือถูแก้มกับคนที่ชอบเบา ๆ เพื่อแสดงความรักและความไว้วางใจ การกะพริบตาช้า ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของความไว้วางใจ โดยเจ้าตัวน้อยจะยอมเปิดเผยมุมที่อ่อนแอเมื่ออยู่ใกล้คุณ

  3. การแสดงอำนาจ

    เจ้าเหมียวมักแสดงอำนาจผ่านการจ้องมองโดยไม่กะพริบตา มันเป็นวิธีการสื่อสารที่ใช้กันทั่วไปในบ้านที่มีแมวหลายตัวเพื่อบ่งบอกถึงการควบคุม การมีอำนาจเหนือกว่า และความก้าวร้าว

    นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนรูปแบบหนึ่งด้วย พวกเค้าทำเพื่อป้องกันการแย่งอาหาร กระบะทราย และการรุกล้ำอาณาเขตจากแมวตัวอื่น

  4. ความก้าวร้าว

    การจ้องเขม็งไม่ได้เป็นเพียงคำเตือนเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงความก้าวร้าวอีกด้วย เมื่อได้รับการกระตุ้นมากเกินไปหรือเกิดความหวาดกลัว แมวมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและอาจหรี่ตาลงเพื่อป้องกันดวงตาจากการโจมตีของคู่ต่อสู้

  5. จูบจากแมวเหมียว

    ดวงตาหรือท่าทางของแมวไม่ได้บ่งบอกถึงความก้าวร้าวหรือความกลัวทั้งหมด เช่น การปรือตาบ่งบอกถึงความสบายใจและปลอดภัยเมื่ออยู่กับคุณ

    การจ้องมองอย่างผ่อนคลาย ตามด้วยการกะพริบตาช้า ๆ อย่างอ่อนโยนเป็นสัญญาณของความรัก และเทียบเท่ากับการจูบของแมว

ฟันแมว

แมวมีฟันกี่ซี่?

ลูกแมวมีฟันน้ำนม 26 ซี่ ซึ่งต่อมาจะถูกแทนที่ด้วยชุดฟันแท้ทั้งหมด 30 ซี่

ฟันแมวจะหลุดเมื่อไหร่?

โดยทั่วไปฟันน้ำนมจะหลุดเมื่อลูกแมวมีอายุประมาณ 11 สัปดาห์ ส่วนฟันแท้จะยังคงอยู่จนถึงวัยชรา ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรหมั่นแปรงฟันให้แมวเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน

ฟันแต่ละประเภทมีหน้าที่แตกต่างกัน

ฟันของแมวจะประกอบด้วยฟันตัด 12 ซี่ ฟันเขี้ยว 4 ซี่ ฟันกรามน้อย 10 ซี่ และฟันกรามด้านในอีก 2 ซี่

  1. ฟันตัด – ฟันซี่เล็กมีหน้าที่ตัดหรือกัดอาหาร
  2. ฟันเขี้ยว – มีความแหลมคมมาก ใช้สำหรับกัดและจับเหยื่อ
  3. ฟันกรามน้อย – แมวใช้ฟันกรามน้อยในการกัดเหยื่อและเคี้ยวอาหารที่ค่อนข้างแข็ง
  4. ฟันกราม – มีหน้าที่ทำลายและบดเศษอาหารที่แข็งมาก

แมวไม่มีฟันสามารถกินอาหารได้หรือไม่?

แม้ว่าจะสูญเสียฟันบางส่วนจากโรคปริทันต์ แมวก็ยังสามารถกินอาหารเม็ดได้ หากอาหารมีขนาดเล็กพอที่จะกลืนลงไปได้

ทำไมแมวไม่ค่อยมีปัญหาฟันผุ?

เนื่องจากแมวมีพื้นผิวฟันแตกต่างจากคน แบคทีเรียที่กินน้ำตาลจึงไม่สามารถเกาะติดกับฟันของแมวได้ ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันปัญหาแมวเหงือกอักเสบ แมวเหงือกบวม และฟันผุ

โรคทางทันตกรรม

โรคทางทันตกรรมที่พบได้บ่อยในแมวมีดังนี้

  1. โรคเหงือกอักเสบ

    เกิดจากการสะสมของคราบพลัคหรือหินปูน ส่งผลให้แมวเหงือกอักเสบ แมวเหงือกบวม และมีเลือดออก ทั้งนี้เหงือกอักเสบแมว รักษายิ่งเร็วยิ่งดี เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ อาการอาจรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นสูญเสียฟันได้

  2. โรคปริทันต์อักเสบ

    เป็นโรคที่มีตัวเลือกในการรักษาที่จำกัดและควรรักษาโดยทันที หากมีอาการรุนแรง กระดูกและเนื้อเยื่อเหงือกใต้ฟันจะอ่อนแอลง ส่งผลให้แมวเหงือกอักเสบ และอาจทำให้แมวเหงือกบวมได้ด้วย

  3. การสลายของฟัน

    ภาวะนี้จะทำให้โครงสร้างฟันแตก อาจทำให้แมวเหงือกอักเสบ มีอาการเจ็บปวด ไม่สบายตัว และอาจทำให้แมวเหงือกบวม การสลายของฟันมักจะเริ่มต้นที่ฟันด้านใน ก่อนจะแพร่กระจายไปยังเหงือก ส่งผลให้แมวเหงือกอักเสบ และจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยทันที โดยเหงือกอักเสบแมว รักษาได้ด้วยการทำความสะอาดช่องปาก ขูดหินปูน ในบางกรณีอาจต้องถอนฟันบางซี่

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันแมวเหมียว

เพื่อให้เจ้าเหมียวมีสุขภาพเหงือกที่ดี ผู้เลี้ยงสามารถทำตามคำแนะนำเหล่านี้ได้

  1. แปรงฟันให้แมวด้วยยาสีฟันสำหรับสุขภาพเหงือกที่ดี และควรเลือกใช้ยาสีฟันสำหรับแมวโดยเฉพาะ
  2. นอกจากการสังเกตสัญญาณเตือนของเหงือกอักเสบแมว รักษาความสะอาดหรือแปรงฟันแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการให้ขนมที่มีรสหวานด้วย
  3. การให้อาหารเม็ดที่มีส่วนช่วยขจัดคราบพลัคและหินปูนบนฟันของแมว ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสุขอนามัยที่ดี

ร่างกายของแมว

ภาษากายที่พบบ่อยในแมว

แมวมักจะแสดงความต้องการและอารมณ์ความรู้สึกผ่านภาษากายรูปแบบต่าง ๆ เช่น

  1. กะพริบตาช้า ๆ เพื่อบ่งบอกความมั่นใจและความไว้วางใจ
  2. ยกหางขึ้นสูงเพื่อทักทาย
  3. เอาหัวมาชนหรือถูแก้มที่ตัวเจ้าของเบา ๆ เพื่อแสดงความรัก
  4. โก่งหลัง แกว่งหางไปมา และพองหนวดขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่าแมวกำลังกลัวและพร้อมจู่โจม
  5. เก็บหาง ใบหูลู่ไปด้านหลัง เป็นท่าทางที่บ่งบอกถึงความเครียด

สัญญาณที่บ่งบอกว่าแมวมีความสุขและผ่อนคลาย

  1. หาง

    ยกหางขึ้นสูงและปลายหางบิดโค้งเล็กน้อย แสดงถึงความสุข

  2. ดวงตา

    ปรือตาเล็กน้อยและจ้องมองอย่างผ่อนคลาย บ่งบอกถึงความสบายใจและเชื่อใจ

  3. กะพริบตาช้า ๆ

    เป็นการแสดงออกถึงความรัก ความพึงพอใจ

  4. นอนหงายกลิ้งไปมา

    ท่าทางนี้หมายความว่าลูกแมวรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับคุณ

  5. กระโดดขึ้นตัก

    การกระโดดขึ้นมาเพื่อถูแก้มหรือสะกิดคุณเบา ๆ เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ยังบ่งบอกถึงความสุขและความตื่นเต้นอีกด้วย

สัญญาณที่บ่งบอกว่าแมวรู้สึกกังวลและเครียด

  1. หมอบตัวลงต่ำ

    เป็นท่าทางป้องกันตัวเองเมื่อรู้สึกถึงอันตรายและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี

  2. ใบหูลู่ไปด้านหลัง

    บ่งบอกถึงความวิตกกังวลและความเครียด

  3. ดวงตาเบิกกว้าง

    ดวงตาที่เบิกกว้างและการจ้องมองโดยไม่กะพริบตา บ่งบอกถึงอารมณ์โกรธและความก้าวร้าว

สัญญาณที่บ่งบอกว่าแมวรู้สึกหวาดกลัว

  1. โก่งหลัง

    เป็นท่าทางป้องกันที่ช่วยให้แมวดูตัวใหญ่และมีพลังมากขึ้น

  2. ซ่อนหาง

    แมวที่รู้สึกกลัวจะเก็บหางไว้ใต้ลำตัวหรือหว่างขา

  3. ขนและหนวดพอง

    แมวจะพองขนเพื่อทำให้ดูตัวใหญ่และน่ากลัวยิ่งขึ้น

เราสามารถสื่อสารกับแมวผ่านภาษากายได้อย่างไรบ้าง?

คุณสามารถสื่อสารหรือโต้ตอบกับแมวได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้

  1. หลีกเลี่ยงการจ้องตาเมื่อแมวรู้สึกเครียดหรือหวาดกลัว
  2. หลีกเลี่ยงการส่งเสียงขู่ ตะโกนหรือตะคอก เพราะจะทำให้แมวรู้สึกไม่สบายใจและไม่ปลอดภัย
  3. หากแมวแสดงท่าทางที่บ่งบอกถึงความสุขหรือพอใจ เช่น เอาหัวชนหรือเอาหน้ามาถูไถ ให้ตอบแทนความรักด้วยการกอดหรือให้ขนมกับพวกเค้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลแมว

  1. จะรู้ได้อย่างไรว่าแมวชอบเรา?

    แมวชอบแสดงความรักมากกว่าที่คุณคิดนะ พวกเค้าจะเอาหัวชน ถูแก้มเข้าหาคุณ หรือกะพริบตาช้า ๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าพวกเค้ารักคุณ

  2. ภาษากายของแมวที่บ่งบอกถึงความรู้สึกเชิงบวกมีอะไรบ้าง?

    แมวใช้ภาษากายในการสื่อสารอารมณ์และความรู้สึก โดยภาษากายที่บ่งบอกถึงความรู้สึกเชิงบวก ได้แก่ ท่าทางที่ผ่อนคลายและสบายใจ การกะพริบตาช้า ๆ การยกหางขึ้นสูง การกระโดดขึ้นตัก และการนอนหงายกลิ้งไปมา

  3. ภาษากายของแมวคืออะไร?

    นอกจากการสื่อสารด้วยเสียงแล้ว แมวยังอาศัยภาษากายและการแสดงออกอื่น ๆ เพื่อบอกความต้องการและความรู้สึก โดยภาษากายของแมว ได้แก่ ท่าทาง การเคลื่อนไหวของร่างกาย หาง หู และดวงตา

  4. ขนแมวมีหน้าที่อะไร?

    ขนแมวช่วยปกป้องผิวหนังที่บอบบาง เป็นฉนวนป้องกันสภาพอากาศที่หนาวเย็น และยังป้องกันสารก่อภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อมที่มักจะเป็นต้นเหตุของโรคเชื้อราในแมวและโรคผิวหนังของแมวด้วย

  5. แมวมีขนกี่ชั้น?

    โดยทั่วไปแล้วแมวจะมีขนสองชั้นปกคลุมผิวหนัง ขนชั้นในมักจะหนาและสั้น ส่วนขนชั้นนอกจะยาวและมองเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ความยาวของขนจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

  6. ขนแมวนำมาใช้แทนเสื้อโคตได้หรือไม่?

    แม้ว่าขนแมวจะมีหน้าที่หลักในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและเป็นฉนวนป้องกันสภาพอากาศหนาวเย็น แต่ขนของแมวก็ไม่สามารถนำมาใช้แทนเสื้อโคตของคนได้

  7. แมวทุกตัวมีขนฟูใช่หรือไม่?

    แมวอาจมีลักษณะขนแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แมวเมนคูนและแมวนอร์วีเจียน ฟอเรสต์มีขนยาวสวย ฟูฟ่อง ส่วนแมวขนสั้นนั้น แม้ว่าจะมีขนยาวไม่เท่า แต่มักจะมีขนที่หนากว่า

Whiskas buy online