ใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหาด้านล่างเพื่อค้นหาบทความและผลิตภัณฑ์
การเลี้ยงแมวถือเป็นสิทธิพิเศษและความสุขอย่างแท้จริง เพียงแค่ได้เฝ้ามองลูกแมวเติบโตเป็นเจ้าเหมียวที่แข็งแรงสมวัยก็คุ้มค่ามากแล้ว
การเลี้ยงแมวถือเป็นสิทธิพิเศษและความสุขอย่างแท้จริง เพียงแค่ได้เฝ้ามองลูกแมวเติบโตเป็นเจ้าเหมียวที่แข็งแรงสมวัยก็คุ้มค่ามากแล้ว แม้ว่าการนำลูกแมวแรกเกิดกลับบ้านจะเป็นเรื่องสนุก แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบใหม่ ๆ หลายประการ โดยบทความนี้จะพูดถึงเทคนิคและวิธีดูแลลูกแมวแรกเกิดอย่างเหมาะสม
เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะคุณจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในช่วงสองสามเดือนแรกหลังคลอด จากลูกแมวตัวเล็ก ๆ กลายเป็นลูกแมวตัวโตแสนร่าเริง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเจริญเติบโตทางร่างกายและการพัฒนาทางสติปัญญา จึงไม่น่าแปลกใจที่ลูกแมวต้องการสารอาหารและพลังงานที่เหมาะสมเพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วนี้
อาหารยังมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ของลูกแมวด้วย การเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุลจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่แมวทุกคนควรใส่ใจมากเป็นพิเศษ
ลูกแมวในช่วงแรกต้องอาศัยนมแม่เป็นแหล่งโภชนาการและความชื้นหลัก แต่เมื่อมีอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ลูกแมวส่วนใหญ่จะเข้าสู่ช่วงหย่านมและเริ่มมีฟันขึ้น คุณสามารถเปลี่ยนมาให้อาหารเม็ดและน้ำได้ในช่วงนี้ อาจเลือกให้อาหารแมว Whiskas หรืออาหารปรุงเองที่บ้านก็ได้
แม้ว่าอาหารแมววิสกัสแบบเม็ดและแบบเปียกจะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับพ่อแม่แมวที่ไม่มีเวลาทำอาหาร แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าควรให้อาหารแมววิสกัสในปริมาณเท่าใด
อาหารเปียกวิสกัสเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น เช่น โปรตีนและไขมันจากสัตว์ วิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด รวมถึงช่วยเพิ่มปริมาณน้ำที่ลูกแมวควรได้รับในแต่ละวันด้วย
ควรให้อาหารเปียกเมื่อไหร่ และควรให้มากน้อยแค่ไหน? ลูกแมวที่อายุเกิน 6 สัปดาห์สามารถกินอาหารเปียกวิสกัสได้ในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นเมื่อลูกแมวโตขึ้น ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณเป็น 4 – 7 มื้อต่อวัน
สำหรับพ่อแม่แมวที่มีตารางงานวุ่นวาย อาหารเม็ดวิสกัสคือตัวช่วยที่ดีที่สุด! นอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุลแล้ว อาหารเม็ดวิสกัสยังให้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว โดยปริมาณที่แนะนำสำหรับลูกแมวอายุระหว่าง 6 – 12 สัปดาห์ คือประมาณ 1/3 ถ้วยต่อวัน หลังจากนั้นค่อย ๆ ปรับเพิ่มเป็น 1 ถ้วยต่อวัน
โภชนาการที่ครบถ้วนและมีแคลอรีเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกแมว เนื่องจากพวกเค้าต้องการสารอาหารเฉพาะเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มพลังให้มีแรงเล่นสนุกได้ตลอดวัน
เมื่อพูดถึงวิธีการเลือกอาหารลูกแมวคุณภาพดี เราควรเรียนรู้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพวกเค้ากันก่อน
โดยทั่วไป แม่แมวจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลลูกแมววัยก่อนหย่านม เจ้าตัวน้อยเหล่านี้จะเริ่มมีฟันซี่เล็ก ๆ รู้จักเล่นของเล่น และชอบเดินสำรวจรอบ ๆ บ้าน เมื่อเข้าสู่ช่วงหย่านม ลูกแมวจะกินนมแม่น้อยลง สามารถเปลี่ยนมากินอาหารลูกแมววิสกัสได้ ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นดังนี้
เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ สารอาหารที่ต้องการจึงมาจากเนื้อสัตว์เป็นหลัก เช่น โปรตีน ไขมัน และกรดไขมัน ซึ่งในอาหารลูกแมววิสกัสก็มีโปรตีนที่ย่อยง่ายเป็นส่วนประกอบสำคัญ
โปรตีนจากสัตว์ยังเป็นแหล่งสำคัญของกรดอะมิโนที่จำเป็น เช่น อาร์จินีน ไลซีน และเมไทโอนีนที่ช่วยเสริมพัฒนาการทางร่างกาย
เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยบำรุงดวงตาและเส้นขนด้วย
ลูกแมวและแมวโตจำเป็นต้องได้รับทอรีนและโคลีนทุกวัน เพื่อรักษาการทำงานที่สำคัญของร่างกายและเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา
กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิกหรือ DHA เป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อพัฒนาการสมองและการมองเห็นของลูกแมว ซึ่งในอาหารแมว Whiskas แบบเม็ด จูเนียร์ก็มีทั้งดีเอชเอและโคลอสตรุม แหล่งสารอาหารสำคัญที่พบได้ในน้ำนมแม่แรกคลอด
ลูกแมวต้องการวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดในปริมาณที่สมดุล สารอาหารทั้งสองชนิดจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ โดยลูกแมวต้องการวิตามินเอและแร่ธาตุ เช่น ทองแดง แมกนีเซียม และไอโอดีนมากกว่าแมวโตเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ลูกแมวที่กำลังเติบโตต้องการแคลเซียมและฟอสฟอรัสในอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อพัฒนากระดูกและฟัน เพิ่มความกระฉับกระเฉง และเสริมการเรียน
เชื่อว่าผู้เลี้ยงส่วนใหญ่พยายามคัดเลือกอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกแมวตัวน้อย แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องเลือกอาหารให้ลูกแมวจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
ความต้องการทางโภชนาการของลูกแมวขึ้นอยู่กับอายุ สายพันธุ์ และรูปแบบการใช้ชีวิต แม้ว่าจะต้องการปริมาณแคลอรีสูงกว่าแมวโต แต่ก็ไม่ควรให้อาหารมากเกินไปเพื่อลดโอกาสในการเกิดโรคอ้วน แนะนำให้เลือก อาหารแมว Whiskas สูตรสำหรับลูกแมวโดยเฉพาะ ผ่านการคิดค้นเพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว แม้ให้ในปริมาณน้อยแต่อัดแน่นด้วยสารอาหาร
ลูกแมวที่มีอายุเกิน 6 สัปดาห์ควรได้รับอาหารเปียกหรืออาหารเม็ดวิสกัสวันละ ⅓ ถึง ¼ ถ้วย โดยแนะนำให้ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณเมื่อพวกเค้าโตขึ้น
แมวเหมียวมักจะแสดงท่าทางแปลกและตลกอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งการเล่นกับอาหารก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วการเล่นอาหารเป็นการตอบสนองสัญชาตญาณนักล่าที่มีอยู่ในตัว
แม้ว่าท่าทางตอนเจ้าเหมียวเล่นอาหารจะดูน่ารัก ชวนให้ยิ้มและหัวเราะ แต่เราต้องเสียอาหารไปโดยเปล่าประโยชน์ และทำให้บ้านเลอะเทอะจนต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ นอกจากนี้การเล่นอาหารยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน ส่งผลให้แมวเสี่ยงต่อความผิดปกติของลำไส้ด้วย
หากคุณเป็นพ่อแม่แมวที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขหรือป้องกันพฤติกรรมนี้ เราขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ที่ทำให้ลูกแมวรู้ว่าเวลากินอาหารไม่ใช่เวลาเล่นสนุก
นอกจากการเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและสมดุลแล้ว คุณจำเป็นต้องกำหนดปริมาณให้เหมาะสมด้วย เพื่อให้ลูกแมวได้รับสารอาหารและแคลอรีเพียงพอโดยไม่ทำให้มีน้ำหนักมากเกินไป โดยปริมาณอาหารที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ อายุ และการใช้ชีวิตของลูกแมว
อายุ | น้ำหนักตัว | ปริมาณอาหาร |
6 สัปดาห์ | 300 – 680 กรัม | ⅓ – ¼ ถ้วย |
7 สัปดาห์ – 5 เดือน | 680 กรัม – 2.6 กก. | ⅓ – 1 ถ้วย |
6 เดือนขึ้นไป | 2.6 – 5.4 กก. | ⅔ – 1¼ ถ้วย |
คุณสามารถสังเกตจากพฤติกรรมและสัญญาณต่าง ๆ เช่น การเลียชามจนสะอาด หรือเลียอุ้งเท้าหลังกินอาหารเสร็จ ซึ่งมักจะพบได้บ่อยหลังเจ้าเหมียวกินอาหารแมววิสกัส!
แมวส่วนใหญ่มีนิสัยเก็บตัวและขี้อาย แต่ในขณะเดียวกัน พวกเค้าก็น่ารักและเข้ากับคนง่าย ความต้องการให้ทาสแมวคนโปรดดูหรือเฝ้าขณะกินอาหารถือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสังคมและการแสดงความรัก ลูกแมวจะรู้สึกสนุกกับการกินอาหารมากขึ้นเมื่อมีคุณนั่งเฝ้า
แมวมักจะเล่นอาหารเพื่อฝึกฝนสัญชาตญาณการล่าสัตว์ และเพื่อให้แน่ใจว่าเหยื่อของพวกเค้าดีและเหมาะสมสำหรับการบริโภค การเล่นยังทำให้เหยื่อเหนื่อยล้าจนตอบโต้หรือหนีได้ช้าลง
ลูกแมวหรือแมวโตที่เลี้ยงในบ้านมักจะคลายความเบื่อด้วยการเล่นอาหาร เนื่องจากไม่จำเป็นต้องล่าอาหารเอง พวกเค้าจึงมักจะตบหรือเขี่ยอาหารเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัส