เมื่อลูกแมวโตเร็วกว่าที่คุณคิด
ลูกแมวโตเร็วมากนะ! โดยจะเจริญเติบโตภายในระยะเวลาประมาณ 10 – 12 เดือน และเมื่อพวกเค้ามีอายุ 30 สัปดาห์ก็จะเริ่มโตช้าลง ถึงแม้ว่าอัตราการเจริญเติบโตของลูกแมวจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของแต่ละตัว แต่ในช่วงเดือนแรกถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของลูกแมวทุกตัวนะ
ทำไมช่วงเดือนแรกของลูกแมวจึงสำคัญมาก?
การดูแลอย่างเหมาะสมในช่วงเดือนแรกมีความสำคัญต่อพัฒนาการลูกแมว ตลอดจนความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดี นอกจากนี้การดูแลด้านโภชนาการและสภาพแวดล้อมก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ไม่เพียงแต่จำเป็นต่อพัฒนาการลูกแมวเท่านั้น แต่เพื่อความอยู่รอดของลูกแมวในช่วงแรกคลอดด้วย
เจ้าของแมวจำเป็นต้องเรียนรู้พัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกแมว ไปจนถึงวิธีการดูแลพวกเค้าอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยด้วย
แล้วเราจะดูแลให้วิวัฒนาการลูกแมวเป็นไปอย่างเหมาะสมได้อย่างไรกันนะ? มาดูคำตอบไปพร้อมกันเลย!
พัฒนาการของลูกแมวในแต่ละช่วงอายุ
เพื่อให้พัฒนาการลูกแมวในแต่ละช่วงอายุเป็นไปอย่างเหมาะสม ทาสแมวสามารถทำตามคำแนะนำได้ดังต่อไปนี้
ช่วงแรกเกิด 0 – 4 สัปดาห์
ลูกแมวแรกเกิดควรอยู่ใกล้ชิดกับแม่แมวและพี่น้องในครอกเดียวกัน ตาของลูกแมวจะยังปิดสนิท จะไม่ได้ยิน และยังเดินไม่ได้ พวกเค้าจะส่งเสียงร้องเล็ก ๆ และคลานไปมาในระยะสั้น ๆ ด้วยการขยับท้องของตัวเอง
ข้อควรรู้ของลูกแมวในช่วงอายุนี้
- ลูกแมวในช่วงอายุนี้ก็เหมือนเด็กทารกที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการกินและนอน
- ลูกแมวแรกเกิดจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 100 – 150 กรัม หลังจากนั้นน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น 10 – 30 กรัมต่อวัน และเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อพวกเค้ามีอายุ 21 วัน
- ตาของลูกแมวจะเปิดในช่วงวันที่ 5 หลังจากคลอด แต่การมองเห็นจะชัดเจนเมื่อมีอายุ 4 สัปดาห์
- ลูกแมวจะยังควบคุมอุณหภูมิในร่างกายได้ไม่ดี และอาจถึงตายได้ถ้าไม่ได้รับความอบอุ่นที่เพียงพอจากแม่แมวหรือพี่น้อง หากคุณต้องดูแลลูกแมวกำพร้า ควรให้พวกเค้าอยู่ในพื้นที่ที่อบอุ่น หรือมีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 32 องศา
ขั้นตอนการดูแลลูกแมวในช่วงอายุนี้
-
- ควรพาลูกแมวแรกเกิดของคุณไปตรวจเช็กร่างกายกับสัตวแพทย์
- การถ่ายพยาธิทุกเดือนเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการลูกแมวแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 เดือน
- ควรให้ลูกแมวอยู่ในพื้นที่ที่สะอาด ไม่เปียกชื้น อากาศถ่ายเท และปลอดภัยจากสัตว์ชนิดอื่น
- ลูกแมวควรได้กินนมแม่แมวทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อสร้างภูมิต้านทานที่ดี
- หากคุณต้องเป็นแม่จำเป็นของลูกแมวกำพร้า ควรเลือกอาหารที่มี DHA และ Colostrum แหล่งสารอาหารสำคัญที่พบได้ในน้ำนมแม่แรกคลอด DHA จำเป็นต่อพัฒนาการของสมองและดวงตา Colostrum ก็มีส่วนช่วยสร้างภูมิต้านทานที่ดี สารอาหารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อพัฒนาการลูกแมวแรกเกิดอย่างมาก
ช่วงหย่านม 4 – 8 สัปดาห์
ช่วงหย่านมหรือช่วงอายุที่สองตามการเจริญเติบโตของลูกแมว เป็นช่วงอายุที่พวกเค้าเริ่มกินอาหารแมวได้แล้ว รวมถึงเป็นวัยที่ต้องเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด และพฤติกรรมต่าง ๆ จากแม่แมว
ข้อควรรู้ของลูกแมวในช่วงอายุนี้
- ลูกแมวในช่วงอายุนี้จะมีความซุกซน เริ่มออกสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
- พวกเค้าจะตามแม่แมวไปทุกที่ เพื่อเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด ตั้งแต่การล่าเหยื่อ การดูแลความสะอาดตัวเอง ตลอดจนการทำกิจวัตรประจำวัน
- ลูกแมวในวัยนี้จะกินนมแม่น้อยลง และเริ่มหัดกินอาหารแมวได้แล้ว
ขั้นตอนการดูแลลูกแมวในช่วงอายุนี้
-
- พฤติกรรมที่พบได้ในช่วงพัฒนาการลูกแมว 1 เดือน คือนิสัยชอบสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เจ้าของจึงจำเป็นต้องเตรียมพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยไว้ให้พวกเค้า
- อย่าลืมมอบอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น และสารพัดของเล่นไว้ให้เจ้าลูกแมวตัวน้อยด้วย เพื่อช่วยให้พวกเค้ารู้สึกเพลิดเพลิน และมีความกระตือรือร้น
- ควรพาลูกแมวไปตรวจร่างกายและถ่ายพยาธิเป็นประทุกเดือน
- อาหารที่เหมาะสมมีความสำคัญมากต่อพัฒนาการลูกแมว 1 เดือน ดังนั้นจึงควรเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารอย่างโปรตีน ทอรีน และโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อพัฒนาการลูกแมว 1 เดือน อาหารของลูกแมวช่วงอายุนี้ต้องกินง่าย ย่อยง่าย และต้องมีรสชาติอร่อยเพื่อดึงดูดใจพวกเค้า อาหารที่มี DHA และ Colostrum ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสารอาหารทั้งสองชนิด จำเป็นต่อพัฒนาการทางสมองและการมองเห็นของลูกแมว รวมถึงมีส่วนช่วยในการสร้างระบบภูมิต้านทานที่ดีอีกด้วย
ช่วงอายุที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว 2 – 4 เดือน
พวกเค้าจะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา! เพราะพัฒนาการของลูกแมวในช่วงอายุนี้คือการแสดงลักษณะนิสัย และพฤติกรรมทางสังคม
ข้อควรรู้ของลูกแมวในช่วงอายุนี้
- ลูกแมวอายุ 2 – 4 เดือนจะซุกซนและเต็มไปด้วยพลัง พวกเค้าต้องทำกิจกรรมเพื่อปลดปล่อยพลังงานมากกว่าแมวโตถึง 3 เท่า
- พวกเค้าจะเลียนแบบพฤติกรรมของแม่แมวหรือพี่น้อง ช่วงอายุนี้ถือเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดกับการฝึกทักษะต่าง ๆ
- เป็นช่วงอายุที่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่ และความสนใจมากเป็นพิเศษ
ขั้นตอนการดูแลลูกแมวในช่วงอายุนี้
-
- เป็นช่วงอายุที่เหมาะกับการรับไปเลี้ยง พร้อมที่จะเริ่มต้นกับครอบครัวใหม่ เพราะหย่านมและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากแม่แมวครบถ้วนแล้ว
- ลูกแมวสามารถเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกได้แล้ว
- ด้วยความซุกซนของลูกแมวช่วงอายุนี้ ทาสแมวต้องเก็บสิ่งของอันตรายให้มิดชิด และควรระวังเป็นพิเศษเมื่อลูกแมวอยู่ใกล้บริเวณบันไดหรือที่สูง
- อาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากต่อพัฒนาการของลูกแมวในช่วงอายุนี้ เพราะหย่านมแล้ว สารอาหารที่จำเป็นจึงต้องรับมาจากอาหารแมวทั้งหมด พวกเค้าต้องการสารอาหารอย่างทอรีน และ DHA
ช่วงอายุที่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง อายุ 4 เดือนขึ้นไป
ลูกแมวของคุณใกล้เป็นแมวเหมียวโตเต็มวัยแล้ว หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าควรดูแลพวกเค้าอย่างไรดี เพื่อให้วิวัฒนาการลูกแมวในช่วงอายุนี้เป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งมีทริคง่าย ๆ คือการเลือกอาหารที่ใช่!
ข้อควรรู้ของลูกแมวในช่วงอายุนี้
- พวกเค้าจะเริ่มแสดงความเป็นเจ้าของ ด้วยการทำกลิ่นและข่วน
- หากยังไม่ได้รับการทำหมัน แมวเหมียวของคุณจะเริ่มแสดงอาการคลั่งรัก (ติดสัด)
- พวกเค้าจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะกลายเป็นน้ำหนักตัวตอนโตเต็มวัยกว่า 80%
ขั้นตอนการดูแลลูกแมวในช่วงอายุนี้
-
- หากไม่ต้องการมีลูกแมวเพิ่ม ควรทำหมันแมวให้เรียบร้อย ซึ่งการทำหมันยังมีส่วนช่วยให้ลูกแมวมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ลดน้อยลงอีกด้วย
- เมื่อได้รับวัคซีนครบเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถพาพวกเค้าออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้
- เปลี่ยนมาให้อาหารสูตรแมวโตที่มีสารอาหารจำเป็นเหมาะกับช่วงวัยของพวกเค้า
คำถามที่พบบ่อย