
แมวสฟิงซ์
เมื่อพูดถึงแมวไร้ขน สฟิงซ์คือชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน แมวตัวนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะตัวละคร “เรเชล (Rachel)” จาก “FRIENDS” ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล สฟิงซ์เป็นแมวน่ารัก ขี้เล่น และขี้สงสัย อีกทั้งยังชอบเข้าสังคม รักเพื่อน และมักจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเจ้าของ พวกเค้ามีความกระตือรือร้นสูง เพลิดเพลินกับการเล่นและการได้รับความสนใจ
ผิวของสฟิงซ์อาจมีหลายสี เช่น สีดำ ขาว เทา หรือชมพู และอาจมีลวดลายแตกต่างกัน เช่น ลายสามสี ลายสลิด และลายกระดองเต่า แมวพันธุ์สฟิงซ์มักจะมีสีตาที่โดดเด่น เช่น สีฟ้า สีเขียว สีทอง หรือมีตาสองสี
สฟิงซ์ พันธุ์แมวไร้ขนตัวนี้เติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่น รวมถึงควรได้รับการปกป้องจากทั้งความเย็นและแสงแดดโดยตรง
ลักษณะสำคัญของแมวสฟิงซ์
- น้ำหนัก – มีน้ำหนักประมาณ 6 – 12 ปอนด์ (2.7 – 5.4 กก.)
- ความสูง – ความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 8 – 10 นิ้ว (20 – 25 ซม.)
- อายุขัย – โดยทั่วไปมีอายุขัยเฉลี่ย 12 – 15 ปี
- ขน – ไม่มีขน มีผิวนุ่มคล้ายหนังกลับ มีสีและลวดลายที่หลากหลาย
ภาพรวมของแมวสฟิงซ์
- ความเป็นมิตร ⭐⭐⭐⭐
- การปรับตัว ⭐⭐⭐⭐
- การปรับตัวเข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ⭐⭐⭐⭐⭐
- ความขี้เล่น ⭐⭐⭐
- ความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ⭐⭐⭐⭐
- สุขภาพโดยรวม ⭐⭐⭐⭐
- อายุขัย ⭐⭐⭐⭐
- ง่ายต่อการฝึก ⭐⭐⭐⭐
- ความเหมาะสมสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง ⭐⭐⭐⭐
1 ดาว = คะแนนต่ำ
5 ดาว = คะแนนดี
ลักษณะของแมวสฟิงซ์
แม้จะพบเจอกันเพียงครั้งเดียว แต่คุณจะจดจำแมวพันธุ์สฟิงซ์ได้ในทันที เนื่องจากเป็นแมวที่ไม่มีขนและมีรอยยับย่นเป็นเอกลักษณ์ ผิวของสฟิงซ์มาในรูปแบบที่หลากหลาย พบได้ในสีชมพู สีดำ สีเทา สีขาว หรือเฉดสีอื่น ๆ ลวดลายอาจปรากฏเป็นสองสี สามสี ลายกระดองเต่า หรือลายสลิด แมวสฟิงซ์บางตัวจะมีขนอ่อนเส้นเล็ก ๆ ให้เนื้อสัมผัสนุ่มเหมือนหนังกลับ
สายพันธุ์สฟิงซ์มีรอยย่นที่เห็นเด่นชัด โดยเฉพาะบริเวณหัว คอ และไหล่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของสายพันธุ์และทำให้สังเกตได้ง่าย พวกเค้ายังมีหูขนาดใหญ่คล้ายค้างคาวและดวงตารูปอัลมอนด์ ซึ่งพบได้ในสีน้ำเงิน สีเขียว สีทอง และบางตัวก็มีตาสองสี
ในการระบุสฟิงซ์พันธุ์แท้ ให้มองหาลักษณะเฉพาะต่าง ๆ เช่น ไร้ขน ผิวยับย่น หูใหญ่ และลำตัวที่ล่ำสัน เจ้าเหมียวตัวนี้มักจะมาพร้อมท่าทางที่น่ารักและสดใส
สุขภาพโดยรวมของแมวสฟิงซ์
สายพันธุ์สฟิงซ์จัดเป็นแมวที่มีสุขภาพดี แต่มีแนวโน้มจะเกิดปัญหาสุขภาพบางอย่างเนื่องจากพันธุกรรม โดยปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยคือโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว (HCM) ซึ่งเป็นภาวะที่ผนังหัวใจหนาขึ้น แนะนำให้ตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองโรคเป็นประจำเพื่อให้ระบุปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
การติดเชื้อทางเดินหายใจก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะในลูกแมว และเนื่องจากไม่มีขน จึงมีความเสี่ยงต่อปัญหาผิวหนัง เช่น ผิวไหม้แดดและการติดเชื้อรา การใช้ครีมกันแดดที่ปลอดภัยต่อแมว การรักษาสุขอนามัย และการอยู่ในที่ร่มสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้
อีกหนึ่งปัญหาที่น่ากังวลคือปัญหาในช่องปากและฟัน การแปรงฟันและการตรวจสุขภาพฟันโดยผู้เชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญมาก แมวพันธุ์นี้ยังเสี่ยงต่อโรคอ้วนด้วย แนะนำให้ดูแลโภชนาการและจัดตารางออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงดูแลสภาพแวดล้อมให้สะอาด กรูมมิ่งเป็นประจำ และไปพบสัตวแพทย์ตามนัดหมาย
การกรูมมิ่งแมวสฟิงซ์
แม้จะไม่มีขนเหมือนแมวตัวอื่น แต่เราก็ยังต้องดูแลทำความสะอาดเจ้าสฟิงซ์เป็นประจำ เนื่องจากผิวหนังมีแนวโน้มที่จะผลิตน้ำมันมากและไม่สามารถดูดซับได้เหมือนแมวขนยาวทั่วไป ส่งผลให้เกิดการสะสมและทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือติดเชื้อได้ การอาบน้ำทุกสัปดาห์ด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยนสำหรับแมวจะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและปราศจากน้ำมันส่วนเกิน สิ่งสำคัญคือต้องเช็ดตัวให้แห้งทันทีหลังอาบน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด
การมีใบหูใหญ่คล้ายค้างคาว ทำให้เกิดการสะสมของขี้หูและสิ่งสกปรกได้ง่าย จึงควรทำความสะอาดหูเป็นประจำ เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่สัตวแพทย์แนะนำและเช็ดอย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ควรตัดเล็บทุก ๆ 2 – 3 สัปดาห์ด้วย
เนื่องจากแมวสฟิงซ์ไม่มีขนตาและอาจมีอาการน้ำตาไหล แนะนำให้เช็ดดวงตาเป็นประจำด้วยผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ เพียงเท่านี้ดวงตาของพวกเค้าก็จะมีสุขภาพดีและเปล่งประกายสดใส
การเล่นกับแมวสฟิงซ์
ด้วยนิสัยแมวสฟิงซ์ที่ทั้งกระตือรือร้นและร่าเริง การเล่นจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ พวกเค้าชื่นชอบของเล่นแบบโต้ตอบได้ เช่น ไม้ขนนก ตัวชี้เลเซอร์ และของเล่นซ่อนขนม ของเล่นประเภทนี้จะกระตุ้นสัญชาตญาณการล่าสัตว์และการเคลื่อนไหวร่างกาย การเล่นเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคอ้วน ช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับ และข้อต่อมีความยืดหยุ่น
การเล่นยังช่วยเพิ่มทักษะทางสังคมของแมวสฟิงซ์อีกด้วย การเล่นแบบโต้ตอบช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างแมวกับเจ้าของ รวมถึงช่วยลดความวิตกกังวลและความเบื่อหน่ายได้ดี ของเล่นปริศนาจะกระตุ้นการฝึกสมองและพัฒนาความรู้ความเข้าใจ ทำให้เจ้าเหมียวของคุณเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
หากคุณมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวในบ้าน การเล่นคือวิธีผูกมิตรที่ยอดเยี่ยมเลยหล่ะ การเล่นช่วยให้แมวสฟิงซ์เรียนรู้ที่จะแบ่งปันพื้นที่และสิ่งของต่าง ๆ รวมถึงช่วยพัฒนาความสามารถในการปรับตัว และลดพฤติกรรมหวงอาณาเขต การเล่นและการมีส่วนร่วมเป็นประจำจะช่วยให้แมวสฟิงซ์ของคุณมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และมีอารมณ์ที่มั่นคง