ใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหาด้านล่างเพื่อค้นหาบทความและผลิตภัณฑ์
น้องเหมียวจะเริ่มพร้อมกินอาหารสำหรับแมวโตเมื่ออายุได้ประมาณ 12 เดือน
อาหารเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของลูกแมว อาหารที่ดีควรมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและเหมาะสมกับช่วงวัย อย่างในช่วงแรกเกิดนั้น ลูกแมวควรได้รับน้ำนมเหลืองจากการดูดนมแม่ เพราะเป็นแหล่งสารอาหารที่จำเป็น และช่วยเสริมภูมิต้านทานตามธรรมชาติได้ดี แต่เมื่อลูกแมวหย่านมแล้ว คุณก็สามารถปรับมาให้อาหารเม็ดหรืออาหารเปียกสูตรลูกแมวแทนได้
เราไม่จำเป็นต้องกังวลเมื่อน้องแมวหย่านม เนื่องจากแม่แมวจะคอยดูแลและชี้นำลูก ๆ ตลอดกระบวนการ แต่หากคุณต้องรับบทพ่อแม่จำเป็น คุณควรเรียนรู้วิธีดูแลและวิธีการหย่านมแมวอย่างถูกต้อง เพื่อให้ลูกแมวตัวน้อยเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย
ในบทความนี้ เราได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนอาหารให้ลูกแมววัยหย่านมมาฝากกัน พร้อมตอบคำถามคาใจอย่างลูกแมวหย่านมเมื่อใด และวิธีการหย่านมแมวมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
การเปลี่ยนอาหารให้ลูกแมวหย่านมควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเค้าอยู่ในวัยที่เหมาะสมดีแล้ว และควรระมัดระวังสิ่งเหล่านี้ด้วย
ลูกแมวหย่านมเมื่อใด? และจะเปลี่ยนมาให้อาหารเม็ดได้ตอนไหน? โดยส่วนใหญ่แมวหย่านมในช่วงอายุ 4 – 8 สัปดาห์ ช่วงนี้ลูกแมวจะกินนมแม่น้อยลง และเริ่มกินอาหารเม็ดได้แล้ว นอกจากนี้ลูกแมวจะมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น กระฉับกระเฉงมากขึ้น สามารถยืนสี่ขาและยกหางขึ้นได้
อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกแมวกำลังเข้าสู่วัยหย่านมคือการงอกของฟัน พวกเค้าอาจรู้สึกไม่สบายตัว ส่งผลให้มีพฤติกรรมกัดแทะและเคี้ยวสิ่งของต่าง ๆ ทั้งนี้หากลูกแมวยังไม่สามารถยืนหรือมองเห็นได้อย่างชัดเจน อาจเร็วเกินไปที่จะเริ่มให้อาหารเม็ด
สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกแมวอยู่ในวัยที่เหมาะสมแล้ว โดยปกติแม่แมวหย่านมลูกน้อยในช่วง 4 – 8 สัปดาห์ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้แยกลูกแมวที่อายุน้อยกว่า 4 สัปดาห์ออกจากแม่แมว เพราะเป็นช่วงสำคัญในการเรียนรู้พฤติกรรมต่าง ๆ จากแม่แมว
สำหรับพ่อแม่แมวจำเป็น หากลูกแมวไม่หย่านมหรือยังไม่ถึงวัยที่เหมาะสม คุณสามารถให้นมทดแทนสำเร็จรูปแทนน้ำนมแม่ก่อนได้ จากนั้นจึงค่อย ๆ เปลี่ยนมาให้อาหารเม็ด อาหารเปียก หรืออาหารปรุงเอง โดยแนะนำให้แบ่งเป็นมื้อย่อย อาจให้ทุก ๆ 2 – 3 ชั่วโมง และอาหารควรมีขนาดเล็กเหมาะกับช่องปากของลูกแมวด้วย
พ่อแม่แมวมักสงสัยว่าลูกแมวหย่านมเมื่อใด? คุณสามารถสังเกตได้จากพัฒนาการของพวกเค้า โดยลูกแมวทั่วไปจะเริ่มพัฒนาอย่างรวดเร็วเมื่อมีอายุ 4 สัปดาห์ ร่างกายจะกระฉับกระเฉงมากขึ้น ยืนบนสี่ขาได้ การมองเห็นก็ชัดเจนมากขึ้น และเริ่มมีฟันงอก หากคุณสังเกตเห็นฟันเขี้ยวและฟันแท้ของพวกเค้า นี่เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเปลี่ยนมาให้อาหารเม็ด
ในช่วงที่ลูกแมวไม่หย่านม พ่อแม่แมวอาจต้องป้อนนมทดแทนผ่านขวดนม กระบอกฉีด หรืออาจเทใส่ชามขอบเตี้ยก็ได้ และเมื่อเข้าสู่ช่วงหย่านมแล้ว ลูกแมวมีอาการไม่สบายตัวจากการงอกของฟัน แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น ผ้าห่มหรือแผ่นทำความร้อนสำหรับแมว รวมถึงควรมีอุปกรณ์ดูแลขนและกระบะทรายในจำนวนที่เหมาะสมด้วย
เราสามารถให้ทั้งอาหารแมวแบบเปียกผสมกับแบบแห้ง เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสนุ่มและเคี้ยวง่าย จากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนมาให้อาหารเม็ด ทั้งนี้ควรเสิร์ฟอาหารที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป และแนะนำให้แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ ให้ทีละน้อย ๆ
ลูกแมวที่มีอายุน้อยกว่า 4 สัปดาห์ ยังไม่จำเป็นต้องกินน้ำ เนื่องจากได้รับน้ำนมจากแม่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่แมวหย่านมลูกน้อยแล้ว คุณควรเตรียมน้ำสะอาดใส่ชามขอบเตี้ยให้ลูกแมวด้วย
กระบวนการหย่านมของลูกแมวต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เจ้าตัวน้อยกลายเป็นแมวโตที่แข็งแรง สำหรับทาสแมวมือใหม่ คุณสามารถทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพิ่มเติมได้
เนื่องจากแมวหย่านมต้องเผชิญกับการงอกของฟัน ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สบายตัว ผู้เลี้ยงจึงควรเตรียมของเล่นสำหรับกัดแทะ ผ้าห่มอุ่น ๆ หรือแผ่นทำความร้อนให้พร้อม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและบรรเทาความเครียดให้กับลูกแมว
ไม่แนะนำให้เปลี่ยนอาหารลูกแมวอย่างกะทันหัน ควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไป และควรเริ่มให้จากปริมาณน้อย ๆ ก่อน
ลูกแมวในวัยนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงหย่านมแล้ว คุณสามารถฝึกให้พวกเค้ากินอาหารเม็ด อาหารเปียก หรืออาหารปรุงเองได้
ได้ แต่ต้องค่อย ๆ เปลี่ยนและให้ในปริมาณน้อย ๆ เริ่มแรกอาจให้สลับกับการกินนมแม่ หรือจะเริ่มจากการให้อาหารเปียกและอาหารปรุงเองก่อนก็ได้
ลูกแมวแรกเกิดยังไม่จำเป็นต้องกินน้ำ แต่เมื่อแม่แมวหย่านมลูกน้อยหรือเมื่อลูกแมวเริ่มกินอาหารเม็ด พวกเค้าต้องได้รับน้ำอย่างน้อย 70 มล. ต่อวัน